True AF8 ทรู เอเอฟ 8 เว็บบอร์ด Webboard! www.af8thaiclub.co.cc
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


บอร์ดของแฟนคลับ AF8 www.af8thaiclub.co.cc
 
บ้านLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 วิธีการดูแลรักษาเสียง^^

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Admin
Admin
Admin


จำนวนข้อความ : 12
Join date : 10/04/2011
Age : 29

วิธีการดูแลรักษาเสียง^^ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: วิธีการดูแลรักษาเสียง^^   วิธีการดูแลรักษาเสียง^^ I_icon_minitimeThu Apr 14, 2011 2:44 pm

วิธีการดูแลรักษาเสียง


1. การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เสียงของเรามีคุณภาพ ในแต่ละวัน ควรนอนพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง

2. ไม่ดื่มสุรา/ของมึนเมา การดื่มสุราจะทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเส้นเสียงเกิดการขยายตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดฝอย บริเวณเส้นเสียงแตกได้

3. ไม่ควรสูบบุหรี่หรือสิ่งเสพติดใดๆ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้สารนิโคตินมาเคลือบบริเวณช่องคอ ทำให้เกิดอาการระคายคอได้

4. ควรดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือเล็กน้อย จะช่วยให้รู้สึกชุ่มคอ

5. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมก่อนการร้องเพลง เพราะน้ำนมจะไปเคลือบเป็นเมือกบริเวช่องคอ ทำให้เกิดอาการระคายคอ

6. ในกรณีที่เป็นหวัดและเกิดอาการ "ไอ" หรือมีอาการเกี่ยวกับการอักเสบในช่องคอ ไม่ควรใช้เสียงมาก ควรหลีกเลี่ยงการไอ เพราะ "การไอ" จะทำให้เส้นเสียงบีบตัวเพื่อกั้นลม ก่อนที่จะสะบัดและกระทบกันอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการระคายคอได้ง่าย หากรู้สึกระคายคอจนเลี่ยงไม่ได้ควรใช้การกระแอมช่วย ควรหยุดการใช้เสียงถ้าเป็นไปได้ เพราะการใช้เสียงมากๆ ขณะเกิดการอักเสบในช่องคอ อาจทำให้เกิดตุ่มบริเวณเส้นเสียง ส่งผลให้เสียงของเราเปลี่ยนไปอย่างถาวร หรืออาจเกิดมะเร็งในบริเวณเส้นเสียงได้

7. เมื่อมีเสมหะอยู่ในลำคอ ไม่ควรขากแรงๆ เพราะจะทำให้เส้นเสียงเกิดการบีบตัวและสะบัดมากระทบกันอย่างรวดเร็วและ รุนแรง ส่งผลให้เกิดการระคายคอมากขึ้น และอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ ควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อให้เสมหะเหลวและหลุดจากช่องคอได้ง่าย

8. หากเกิดความรู้สึกระคายเคืองในบริเวณช่องคอ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะการปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เส้นเสียงเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

9. ยาอมชนิดต่างๆที่ช่วยลดอาการระคายคอ อาจเป็นสาเหตุให้ช่องคออักเสบมากยิ่งขึ้นได้ เพราะการอมยาอมชนิดต่างๆ ที่ช่วยลดอาการระคายคอ จะทำให้ช่องคอรู้สึกโล่ง สบาย บางยี่ห้ออาจทำให้รู้สึกชา ทำให้เรารู้สึกว่าสบายขึ้น ดีขึ้น ซึ่งหากเราใช้เสียงในขณะนั้น จะทำให้เส้นเสียงยิ่งเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น เพราะช่องคอที่ชา ไม่ระคายเคือง ทำให้เราไม่สามารถทราบได้ว่า ที่จริงแล้วช่องคอของเราอักเสบเพียงใด ดังนั้น เมื่ออมหรือทานยาที่ช่วยลดอาการระคายคอ จึงควรระลึกไว้อยู่เสมอว่า ควรลดการใช้เสียงตามไปด้วย





40 วิธีการเป็นนักร้อง

1. อย่ากระทำการใดก็ก็ตามที่ทำให้รู้สึกระคายเคืองต่อเส้นเสียง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ
2. เมื่อคุณต้องการหาที่เรียนร้องเพลง ลองสอบถามดูว่าอาจารย์ที่จะมาสอนคุณเป็นใคร มีความเกี่ยวข้องและความสามารถ ทางดนตรีและการร้องเพลงอย่างไร
3. ถ้าคุณมีเนื้อเสียงที่ฟังแล้วดูเพราะดี อาจไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นนักร้องได้
4. เมื่อคุณร้องเพลง แล้วรู้สึกว่า ทำไมนะ เนื้อเสียงของเราดูแปลกๆ ไม่หวานซึ้ง ไม่ใสปิ๊ง เหมือนใครๆ อย่าตกใจ จงภูมิใจในสิ่งที่ตนมี และพยายามทำให้สิ่งที่คุณมีนั้นดูมีค่าที่สุด ด้วยการร้องอย่างเป็นคุณเอง
5. สำหรับคนที่ต้องการร้องเพลงในสไตล์ป๊อป ไม่แปลกเลยถ้าคุณจะเรียนร้องเพลงในทาง classic ในทางตรงกันข้าม หากคุณฝึกร้องเพลงในทาง pop ได้ดี ก็เป็นพื้นฐานที่ดีในการนำคุณไปสู่การร้องเพลงในทาง classic
6. ไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ นอกจากทำให้คุณเป็นมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง ฯลฯ แล้ว มันยังทำลายเส้นเสียงของคุณอีกด้วย
7. ไม่ควรดื่มสุรา นอกจากทำให้คุณเป็นโรคตับแข็ง พิษสุราเรื้อรัง รวมไปถึงการที่คุณต้องเมาพับไม่เป็นท่าแล้ว การดื่มสุรา อาจทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเส้นเสียงของคุณขยายมากจนเกินไป เมื่อใช้เสียงในช่วงเวลานั้น อาจทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นแตก และเกิดอาการเส้นเสียงอักเสบได้
8. ห้ามเด็ดขาดสำหรับการหันไปพึ่งยาเสพติด
9. ห้ามให้ใครทำอะไรกับเส้นเสียงของคุณเด็ดขาด แม้กระทั่งหมอ คุณก็ห้ามให้เค้าทำอะไรกับเส้นเสียงของคุณเด็ดขาด เพราะคุณอาจไม่มีเสียง หรืออาจร้องเพลงไม่ได้อีกเลย ถ้าเส้นเสียงของคุณเป็นอะไรไป หมอก็เป็นคน โอกาสผิดพลาดมีได้เสมอ แต่เรื่องเสียงไม่ควรให้ใครมาทดลอง หากพลาด นั่นคือหายนะของคุณเลยล่ะ
10. ห้ามตะโกนแหกปากเสียงดัง พวกนักร้องร็อค ไม่รู้ว่าคอทำด้วยอะไร ถึงสามารถทำได้ขนาดนั้น สำหรับปุถุชนธรรมดาทั่วไป ผมแนะนำว่า อย่าลอง!!
11. พยายามลืมไปได้เลยสำหรับเครื่องดื่มที่เย็นๆ คุณอาจชอบ (ผมก็ชอบ) เพราะเครื่องดื่มที่เย็นจัด ทำให้เส้นเสียงของคุณหดตัว การดื่มน้ำธรรมดา (น้ำไม่ร้อน-ไม่เย็น) ช่วยให้เส้นเสียงมีอุณหภูมิปกติ เหมาะแก่การใช้เสียงและร้องเพลง
12. อย่าพูดมาก....เดี๋ยวเส้นเสียงสึก
13. อย่าใช้ชีวิตอยู่ในที่ๆมีฝุ่นละอองมากๆ
14. อย่าไอแรงๆ หรือขากเสมหะแรงๆ เพราะอาจทำให้เส้นเสียงอักเสบได้ หากรู้สึกระคายคอจริงๆ ควรใช้วิธีกระแอมช่วยลดอาการระคายคอ
15. ถ้าอยากเป็นนักร้องนำ อย่าพยายามร้องในกลุ่มนักร้องประสานเสียงบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ระบบการฟังของเราเสียไป เนื่องจากเราต้องฟังคนเสียงอื่นมากๆ ซึ่งร้องกันคนละแนวกับเรา โดยไม่ได้พัก
หมายเหตุ : การร้องประสานเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่ชอบฝึกการร้องในแบบขั้นคู่ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยฝึกได้การฟัง (Ear Training) ไม่ควรร้องในวงประสานเสียงบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการหูเพี้ยนได้
16. อย่าร้องเพลงทุกเพลงที่มีเสียงสูงหรือต่ำเกินขีดความสามารถของคุณ ควรเริ่มจากการฝึกเสียงที่คุณมีให้ดีก่อน แล้วหาครูแนะนำอย่างถูกต้อง
17. อย่าใช้เสียงอย่างหนักในการร้องเพลง เกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พักเสียงบ้างเถอะ หากคุณยังรักมันอยู่ และต้องการใช้มันนานๆ
18. อย่าฝึก หรือพยายามใช้ลูกคอ หากคุณไม่มั่นใจว่าคุณเป็นคนที่ร้องเพลงได้ดี และสามารถควบคุมเสียงได้ตรง pitch แล้วล่ะก็ อย่ารีบร้อนฝึกหัดการใช้ลูกคอ เพราะนั่น อาจทำให้คุณเป็นนักร้องที่ไม่ได้เรื่อง เพราะเสียงของคุณจะแกว่งไปมา ไม่ตรง pitch สิ่งที่คุณควรทำคือการฝึกควบคุมเสียงให้นิ่ง ตรง pitch เมื่อคุณชำนาญในการควบคุมเสียงแล้ว จึงควรฝึกการใช้ลูกคอ
19. อย่าเต้นไปร้องไปเป็นเวลานาน ถ้าคุณรู้จักไมเคิล แจ๊คสัน แล้วลองสังเกตุคอนเสิร์ทของเค้าทุกคอนเสิร์ท คุณจะรู้ว่าเค้าร้องสดเพียงไม่กี่เพลง นอกนั้นต้องร้องลิปซิงค์ เพราะการร้องไปเต้นไปเป็นเวลานานๆ ทำให้เสียงของคุณหมดไวผิดปกติ เพราะคุณต้องใช้ความสามารถสูงในการควบคุมลมหายใจ เมื่อคุณกังวลกับท่าเต้นมากๆ กังวลกับลมหายใจทุกเพลง นั่นละ เสียงของคุณจะไม่เป็นท่าก็เมื่อนั้น
20. ไม่ร้องเพลงด้วยเสียงที่ดังที่สุดของคุณเป็นเวลานานๆ
21. รู้จักถามให้มากที่สุด เมื่อคุณเจอคนที่สามารถให้คำแนะนำคุณได้ในด้านการร้องเพลง
22. อย่าไปเรียนร้องเพลงกับคนที่เส้นเสียงเสีย ตำราฝรั่งเล่มหนึ่งบอกผมไว้ว่า ขนาดเสียงของครูผู้สอนยังเสียได้เลย แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไรว่าครูผู้สอนจะไม่ทำให้เสียงของเราเสียไปด้วย
23. ถ้าครูผู้สอนของคุณเป็นนักร้องชั้นยอด ลองพยายามทำความเข้าใจเนื้อหาและวิธีการสอนของเค้าดูนะครับ ถ้าสอนดี ก็โอเคเลย แต่ถ้าสอนได้ไม่ดีให้คุณนึกถึงคำที่ผมบอกนะครับ "คนที่ร้องเพลงดี ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะสามารถถ่ายทอดวิชาการร้องเพลงให้คุณได้ดี"
24. พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานๆ ก่อนการขึ้นเวทีเพื่อร้องเพลง เพราะนอกจากหนาวแล้ว ความเย็นของอากาศ ทำให้ความชื้นในร่างกายของเราระเหยไป อาจทำให้รู้สึกคอแห้งได้ เพราะเราสูดเอาอากาศที่แห้งกว่าเข้าไป พร้อมกับปล่อยอากาศชื้นออกจากตัวเรา
25. พยายามศึกษา และหาทางเรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการร้องเพลง เช่น กล่องเสียง เส้นเสียง กระบังลม กล้ามเนื้อหน้าท้อง ฯลฯ
26. ถ้าการเรียนร้องเพลง หมายถึงการเรียนเทคนิคการใช้เสียงที่ถูกต้อง นั่นหมายถึงว่า เมื่อคุณเรียนร้องเพลง จะต้องได้รับความรู้และการฝึกฝน การใช้เสียงอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดอาการเจ็บคอ อันเนื่องมาจากการใช้เสียงมากเกินไป หรือผิดวิธี
27. การฝึกการร้องเพลง ควรฝึกอย่างช้าๆ ใจเย็นๆ อย่าคิดว่าการรีบร้อนฝึกหนักจะทำให้คุณเก่งในพริบตาได้ การฝึกซ้อมอย่างถูกต้อง พอดี และสม่ำเสมอทุกวัน ทำให้เสียงของเราค่อยๆพัฒนาไปอย่างมีระบบ
28. พยายามเรียนรู้การร้องในแต่ละสไตล์ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ยิ่งคุณรู้มากและทำได้มาก นั่นคือความสามารถเฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเลียนแบบ
29. ดูแลรักษาช่องปากและฟันของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลมปากปอมสดชื่น เวลาคุณร้องเพลง
30. เมื่อคุณต้องร้องเพลง จำไว้ว่า คุณต้องรู้ความหมายของบทเพลงนั้นๆ ทุกคำ ทุกความหมาย ร้องให้ได้อารมณ์ตามนั้น ที่สำคัญ คุณอย่าได้อารมณ์เพียงคนเดียวนะ ผู้ฟังต้องได้ยินเสียงคุณแล้วรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่คุณต้องการสื่อด้วย
31. ร้องเพลงอย่างเดียวไม่พอแน่ ท่าทางคือสิ่งที่นักร้องหลายๆ คน แสดงออกมาอย่างไม่ได้เรื่อง ถ้าคุณร้องเพลงไปแล้วยืนตรงเหมือนคนเคารพธงชาติ คุณคิดว่าใครอยากจะมองคุณบ้าง ใช้หูเพื่อฟังคุณก็พอแล้วมั๊ง ถ้าคุณไม่อยากเป็นอย่างนั้น เริ่มต้นฝึกการใช้ลีลาท่าทางซะ อย่าคิดว่าขึ้นเวทีแล้วมันจะได้เอง จากประสบการณ์แล้วนั้น ผมไม่เคยพบใครแม้แต่คนเดียวที่สามารถทำอะไรได้ดี โดยไม่ได้มีการฝึกซ้อมไว้ก่อน บางคนฝึกไว้แล้ว 100% ยังทำได้แค่ไม่ถึง 80% เอง เพราะฉะนั้นจงซ้อมไว้สัก 120-150 % แล้วคุณจะร้องได้ดี 100% เลย ผมรับรอง
32. ทำความเข้าใจดนตรี คุณควรรู้ว่านักดนตรีต้องการสื่ออารมณ์อย่างไร ในบทเพลงที่คุณร้อง ลองฝึกฟังดนตรีเยอะๆ พยายามทำความเข้าใจอารมณ์ที่สื่อออกมาจากดนตรีแต่ละประเภท แต่ละแนวเพลง
33. หลายคนชอบพูดว่า ไม่สามารถร้องเพลงแต่เช้าได้ หรือร้องเพลงตอนดึกๆ ไม่ไหว เพราะเสียงไม่มา ผมมั่นใจว่า ไม่มีคำๆ นี้ในพจนานุกรมของ นักร้องที่ได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ยกเว้น วันนั้นมันดันพิเรนท์ นอนดึกเสียงเกินกว่าเหตุ ดื่มสุรา หรือไม่สบาย
34. วิธีการรักษาเสียงของคุณอย่างง่ายๆ และได้ผล คือการนำผ้าชุบน้ำอุ่น มาประคบที่คอ เป็นเวลาประมาณ 10 นาที โดยช่วงนั้น คุณควรพักการใช้เสียงด้วย
35. รู้สึกเหมือนคอมีเสมหะตลอดเวลาเลย เรื่องแบบนี้แก้ไม่ยาก คุณสามารถล้างคอของคุณได้ ด้วยการดื่มน้ำอุ่น ผสมเกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมโซดา ทุกเช้า วิธีนี้ได้ผลดีเลยทีเดียว ในการกำจัดอาการระคายคอบ่อยๆของคุณออกไป
36. เมื่อต้องขึ้นเวที อย่าใส่เสื้อผ้าที่หนาๆ เพราะแสงไฟบนเวทีน่ะ "ร้อนมาก" ยืนพักเดียวก็เหงื่อชุ่มแล้ว ร้อนขนาดนั้น คุณคงไม่มีกระใจจะร้องเพลงสักเท่าไหร่หรอก
37. การเรียนรู้วิธีการร้องเพลง และการใช้เสียงอย่างถูกต้อง ต้องใช้เวลาในการเรียน และการฝึกฝนเท่านั้น ไม่มีวิธีลัดใดๆทั้งสิ้น
38. ฝึกการฟังเป็นประจำ ด้วยแบบฝึกหัดการฝึกฟัง การฟัง ทำให้คุณเป็นนักร้องที่ดีได้ เพราะถ้าคุณยิ่งแม่นยำในการฟังโน้ตเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถขึ้นร้องเพลงบนเวทีได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะร้องเพี้ยน
39. หยุดซ้อมร้องเพลงได้ แต่อย่าให้เกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การซ้อมเสมอๆ ย่อมดีกว่าการหยุดซ้อมเป็นประจำ
40. ดูแลตัวเองอยู่เสมอ ทั้งเรื่องเสียง หน้าตา สุขภาพร่างกาย เพื่อให้เราเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดูดี สะอาดสะอ้าน ร่างกายแข็งแรง หน้าตาสดใส จิตใจปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการร้องเพลงอย่างมีคุณภาพ และเป็นนักร้องที่ดี











ร้องเพลงอย่างไรให้ไพเราะ?

หลายๆ คนอาจจะงงว่าผมทำหน้าสอนร้องเพลงไว้แล้ว แล้วจะพิมพ์บทความหน้านี้ขึ้นมาทำไมอีก อยากจะบอกกับเพื่อนๆ ทุกคนถึงที่มาของบทความนี้ เกิดจากการที่ผมสอนร้องเพลงมานาน พบกับนักเรียนและนักร้องมามากมาย น้อยคนนักที่เวลาผมฟังเค้าร้องเพลงแล้วรู้สึกว่าเพราะซะจนบรรยายไม่ถูก เพราะไม่เกรงใจใคร เพราะจนฟังแล้วขนลุกซู่ นักเรียนของผมหลายคนเรียนร้องเพลง จนทราบถึงวิธีการร้อง การใช้เสียงที่ถูกต้อง แต่ร้องไม่เพราะสักที นักร้องหลายๆ คนก็เป็นเช่นกัน การร้องเพลงให้เพราะ ผมว่ามันเกิดจากหลายๆ อย่างมารวมกัน ลองมาดูกันนะครับว่าวิธีของผมจะทำให้คุณร้องเพลงได้เพราะขึ้น น่าดูและน่าฟังมากขึ้นรึเปล่า
เริ่มจาก คุณเคยอ่านเนื้อเพลงอย่างละเอียดมั๊ย เคยลองทำความเข้าใจถึงเรื่องราวที่ผู้แต่งได้พยายามสื่อมาถึงเรารึเปล่า ถ้าไม่เคย ให้เคยซะและทำให้เป็นนิสัย เมื่อคุณต้องการร้องเพลงสักเพลงหนึ่งคุณถึงจะสามารถสื่อสารความหมายของเพลง ไปยังผู้ฟังได้ และไม่ใช้แค่สื่อได้เฉยๆ คุณจะสามารถสื่อไปอย่างได้อารมณ์ของเพลงมากที่สุด เพราะเมื่อคุณเข้าใจเนื้อเพลงอย่างดีแล้ว คุณถึงจะสามารถสื่อความหมายของเพลงออกมาได้ คนฟังก็จะสามารถเข้าถึงอารมณ์ของคุณได้เป็นอย่างดี
จากนั้นคุณลองพยายามคิดว่าคุณคือผู้ถ่ายทอดเพลงๆ นั้นไปสู่ผู้ฟัง พยายามทำอารมณ์ให้รู้สึกคล้อยตามเนื้อหาของเพลงมากที่สุด แล้วสื่อออกมาด้วยน้ำเสียงของคุณ พยายามสรรหาวิธีการร้องที่เป็นตัวคุณเองมากที่สุด ลองดูซิว่าท่อนไหนของเพลงควรร้องด้วยน้ำเสียงแบบไหน การใช้น้ำเสียงแบบไหนให้อารมณ์ความรู้สึกแบบไหน ลองพยายามค้นหาตัวเองออกมา มองตัวเองให้รอบ มองเพลงให้หมดทุกด้าน ท่อนไหนควรใช้โทนเสียงแบบไหน ท่อนไหนควรใช้ความดัง-เบา มากน้อยเพียงใด
คราวนี้มาดูต่อตรงที่ คุณอินกับเพลงมากไปรึเปล่า หมายถึงว่า คุณอย่าคิดว่าเรื่องราวที่คุณร้อง ที่คุณนำเสนอออกไปเป็นเรื่องของคุณคนเดียว จงคิดว่ามันเป็นเรื่องของเรา เรื่องระหว่างผู้ร้องและผู้ฟัง ทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมกับเพลงนี้ เช่น เนื้อเพลงกว่า 80 % เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก หากคุณสามารถถ่ายทอดให้คนฟังรู้สึกว่าเขาเป็นคนรักของเราได้ คุณคือนักร้องที่ดีได้ เพราะคุณสามารถสื่อความหมายของเพลงไปถึงคนฟังได้
ภาษากายก็มีส่วนสำคัญ หากคุณคือคนที่ยืนร้องเพลงบนเวทีแบบคนไร้วิญญานล่ะก็ แก้ไขใหม่ซะเถอะ หรือไม่ก็เลิกร้องไปเลย ลองนึกภาพตามผมดูนะครับ ถ้าคุณไปทานอาหารในสถานที่แห่งหนึ่งที่มีวงดนตรีเล่น หรือมีนักร้อง ร้องเพลงให้คุณฟัง คุณกำลังก้มหน้าก้มตาทานอาหารที่แสนอร่อยอยู่ ทันใดนั้นคุณได้เสียงเสียงอันไพเราะเพราะพริ้งดังขึ้น คุณจะทำอย่างไร..... ถ้าเป็นผม ผมจะเงยหน้าจากอาหารจานโปรดขึ้นมามองว่า ใครกันหนอเป็นคนที่เปล่งเสียงอันไพเราะเช่นนั้ออกมาให้ผมฟัง หากผมเงยหน้ามาเห็นคนคนนึง ที่ยืนร้องเพลงเหมือนยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้ใครอยู่ ผมจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อทันที เพราะเค้าไม่มีค่าควรมองเลย ให้หูฟังก็เพียงพอแล้ว เพราะหากยังมองเค้าต่อไปอาจเสียอรรถรสในการทานอาหารและการฟังเพลงได้
ท่าทางไม่ใช่เรื่องยากเลย เมื่อคุณเข้าใจเนื้อเพลงแล้ว ก็สื่อมันออกมาสิครับ เหมือนกันที่เวลาคุณคุยกับเพื่อนแล้วมีการใช้มือไม้ประกอบเป็นภาษาร่างกาย เพียงแต่จัดท่าทาง มือไม้ให้มันดูพอดี สวยงาม เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ผมลองยกตัวอย่างดูนะครับ อย่างในเพลงที่มีคำว่า "ฉันรักเธอ" คุณจะทำมืออย่างไร เป็นผมเหรอ ก็แค่ยื่นมือออกไป ส่งไปทางผู้ชม พร้อมทั้งใช้สายตามองตามมือ ยื่นให้ใครก็มองไปทางนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว หรือคุณว่าไง ถ้าคุณทำได้ดีกว่านี้ก็ทำได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ พยายามลองทำดูเถอะครับ แล้วจะรู้ว่ามันดีกว่ายืนร้องเพลงเฉยๆเยอะเลย
หวังว่าทุกคนคงไม่อยากเป็นอย่างนักร้องในจินตนาการคนนั้น จงมีความสุขไปกับการร้องเพลง พยายามสื่ออารมณ์เพลงให้ได้ ทำหน้าตาและท่าทางให้น่าดูอยู่เสมอ รับรองเลยว่าคุณจะต้องเป็นอีกคนหนึ่งที่ร้องเพลงได้ไพเราะ น่าฟังและน่ามอง อย่างที่คุณเองต้องการได้แน่นอน

ขึ้นไปข้างบน Go down
http://www.af8thaiclub.co.cc
 
วิธีการดูแลรักษาเสียง^^
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
True AF8 ทรู เอเอฟ 8 เว็บบอร์ด Webboard! www.af8thaiclub.co.cc :: ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น ก่อนเป็นนักล่าฝันตัวจริง!!!-
ไปที่: